วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553
พรรคเพื่อไทยได้เปิดสาขาพรรคที่ ภูเก็ต เลขที่ 74/186 ถ.ร่วมพัฒนา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต(หมู่บ้านภูเก็ตซิตี้โฮม)
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.53 พรรคเพื่อไทยได้เปิดสาขาพรรคที่ ภูเก็ต เลขที่ 74/186 ถ.ร่วมพัฒนา ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต(หมู่บ้านภูเก็ตซิตี้โฮม) ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ภายในโครงการภูเก็ตซิตี้โฮม โดยมีนายพิเชษฐ์ สถิรชวาล รองประธานภาคใต้ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานเปิด และมีแกนนำพรรคเพื่อไทยร่วมมาก เช่น นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง อดีตรอง ผบช ภ. 8 นายสุชาติ ธาราธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ กลุ่มแดงสยาม สมาชิกพรรคเพื่อไทยในฝั่งอันดามันเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
โดยศูนย์ประสานงานฯ มีนายสรธัสส์ ธันยลาภพิทักษ์ หรือ โกอี่ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ เพื่อขึ้นเพื่อดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้สอดคล้องกับนโยบายของพรรคเพื่อไทยในการพัฒนาภาคใต้และฝั่งอันดามัน ที่จะส่งเสริม สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ส่งเสริมพัฒนาให้ภูเก็ตยิ่งใหญ่ เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศ เขตปลอดภาษี และเป็นเมืองท่าที่สำคัญของโลก
นายพิเชษฐ์ สถิรชวาล รองประธานภาคใต้ พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังเปิดศูนย์ฯ ว่า การเปิดศูนย์ประสานงานอันดามันของพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ได้เลือกให้ตรงกับวันที่ 24 มิ.ย. ซึ่งเป็นมีนัยสำคัญของการเปลี่ยนแปลงการใช้รัฐธรรมนูญครั้งแรกของประเทศ แสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดมีส.ส.มากที่สุดจากการที่พรรคยึดมั่นในการนำความเจริญสู่ประชาชนจากการกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายของพรรคที่ให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง โดยการยึดเอาวิถีชีวิตของประชาชนเป็นหลักในการกำหนดนโยบายพรรคแต่ละพื้นที่
นายพิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ตนได้รับมอบหมายจากพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ์ ประธานพรรคเพื่อไทยให้เป็นผู้สรรหาผู้สมัครและเปิดศูนย์ประสานงานของพรรคในภาคใต้ โดยได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการพัฒนาภาคใต้ที่ยึดหลักให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนใต้ ซึ่งได้แบ่งพื้นที่การพัฒนาออกเป็น 3 โซน คือ พื้นที่ชายแดนภาคใต้ พื้นที่ฝั่งอันดามัน และพื้นที่ฝั่งอ่าวไทย โดยในส่วนของพื้นที่ฝั่งอันดามันนั้น ได้กำหนดยุทธศาสตร์ในเรื่องของการผลักดันให้ภูเก็ตเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และเขตปลอดภาษี เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในภูเก็ตและอันดามัน
ส่วนพื้นที่ชายแดนภาคใต้นั้น ได้กำหนดยุทธศาสตร์ที่จะทำให้จังหวัดชายแดนใต้สงบสุขอย่างยั่งยืน ตามแนวคิดของพลเอกชวลิตที่จะผลักดันให้เป็นนครปัตตานี ซึ่งที่ผ่านมาทางพรรคได้มีการสัมมนารับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่มาสองรอบแล้ว ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนในพื้นที่ เพราะการผลักดันให้เกิดนครปัตตานีเป็นการพัฒนาที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนชายแดนภาคใต้
ในขณะที่ทางฝั่งอ่าวไทยนั้น ได้กำหนดยุทธศาสตร์ที่เชื่อมโยงจังหวัดทางฝั่งอ่าวไทย คือ สงขลา นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี และชุมพร เข้าด้วยกัน ด้วยการพัฒนาทะเลสาบสงขลาและพัฒนาโครงการพระราชดำริที่ปากพนัง รวมทั้งจะมีการส่งเสริมให้ราคาพืชผลทางการเกษตรของภาคใต้ราคาดีทั้งปาล์มและยางพารา เป็นต้น เพื่อพัฒนาให้ชีวิตของคนภาคใต้ดีขึ้นยิ่งไปอีก
นายพิเชษฐ์ ยังกล่าวถึงการสรรหาผู้สมัครของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า กำลังพิจารณาทั้งผู้สมัครเก่าและคนใหม่ๆ ที่เสนอตัวเข้ามาแล้ว 4-5 คน ในฝั่งอันดามัน ในอันดามันหากมีผู้แทนที่มาจากต่างพรรคการเมืองประโยชน์ก็จะเกิดกับประชาชน ซึ่งในส่วนของภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีเรื่องของเศรษฐกิจและประชาชนมาจากหลายพื้นที่ไม่ได้มีเฉพาะคนภูเก็ตดั้งเดิม คนเหล่านี้อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง เพราะที่ผ่านมาเลือกพรรคเดียวมาโดยตลอดไม่มีการเปลี่ยนแปลง และพร้อมที่จะเปิดศูนย์ประสานงานทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้
ขณะที่นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับมอบหมายจากพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยให้มาแสดงความยินดีในการเปิดศูนย์ประสานงานฝั่งอันดามันที่ภูเก็ต เพื่อเป็นการยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะสู้ศึกเลือกตั้งในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ โดยการปักธงแรกในพื้นที่อันดามัน ทั้งภูเก็ต พังงา กระบี่ และระนอง ซึ่งศูนย์ดังกล่าวจะเป็นศูนย์ในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ที่ได้รับความเดือดร้อนจากนโยบายของรัฐบาล ชาวประมง เกษตรกร และประชาชน ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากนโยบายของรัฐบาลและเจ้าหน้าของรัฐ เพื่อที่จะส่งต่อไปยังพรรคเพื่อไทยที่กรุงเทพ ให้การช่วยเหลือต่อไป
นายพร้อมพงษ์ กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมใช้ยุทธศาสตร์ขอแบ่งพื้นที่ในอันดามันและภาคใต้จากพรรคประชาธิปัตย์ที่ครองพื้นที่ส.ส.ทุกจังหวัดทั้ง ภูเก็ต พังงา กระบี่ และระนอง เพื่อมาเลือกส.ส.ของพรรคเพื่อไทยบ้าง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนในฝั่งอันดามันและสามารถดูแลประชาชนได้มากขึ้น รวมทั้งมีการค้านอำนาจ มีการตรวจสอบ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยมีความพร้อมในการรับสมัครสมาชิกและผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะจากกรุงเทพโพลถือว่ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีสอบตก จากการที่ไม่สามารถแก้ปัญหาของประเทศได้
ข้อมูลจาก..ผู้จัดการ ออนไลน์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น