ทั้งนี้ เครือข่ายรักษ์อ่าวไทยได้มีการสลับกันทำหน้าที่ปราศรัยให้ข้อมูลกับประชาชนที่เข้าร่วมรับฟังซึ่งช่วงแรกมีนายสถิรพงษ์ สุรินทร์วรางกูร กรรมการมูลนิธิกรีนไอร์แลนด์ ขึ้นกล่าวปราศรัย โดยเน้นย้ำให้ประชาชนออกมาแสดงพลังกันในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ให้มาก และเห็นว่าการขุดเจาะน้ำมันที่เข้ามาถึงเกาะสมุยส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ซึ่งการเคลื่อนไหวในครั้งนี้เพื่ออยากทำความเข้าใจกับรัฐบาลว่า พื้นที่เกาะสมุยเป็นพื้นที่ทำมาหากินให้กับลูกหลานของเกาะสมุยมาช้านาน
แต่ปัจจุบันโครงการของรัฐทำให้ประชาชนเดือดร้อน ไม่เพียงแค่ผู้ประกอบการโรงแรม พ่อค้า ผู้รับเหมาก่อสร้าง แต่ประชาชนเดือดร้อนทั้งหมด และการต่อสู้ครั้งนี้นำโดยนายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีเมืองเกาะสมุย เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับรู้และเห็นว่าทุกฝ่ายต้องร่วมกันแก้ไขปัญหา
นอกจากนี้ กรรมการมูลนิธิกรีนไอร์แลนด์ยังกล่าวต่ออีกว่า อยากให้รัฐบาลได้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 และไม่เพียงแต่ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA เท่านั้นแต่ต้องมีการศึกษาผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนในพื้นที่หรือ HIA ควบคู่กันไปด้วย และอยากให้รัฐบาลทำหน้าที่ให้ครบถ้วนสิ่งใดกระทบต่อวิถีชุมชนจะต้องมีการหารือร่วมกันทั้งชุมชน หน่วยงานเอกชน มหาวิทยาลัยที่มีนักวิชาการด้านการประมง ตลอดจนต้องมีการทำวิจัยด้วย
หลังจากที่มีการปราศรัยของกรรมการมูลนิธิกรีนไอร์แลนด์จบลง ก็ยังมีนายอุทัย ยอดมณี อดีตรองนายกองค์การบริหารนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงทำหน้าที่ปราศรัยต่อด้วย ขณะที่ประชาชนที่เข้ารับฟังการปราศรัยในช่วงค่ำค่อนข้างบางตา ทั้งที่ตลอดทั้งวันทีรถขยายเสียงเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ให้เข้ามารับฟังการปราศรัยดังกล่าว
ทั้งนี้ ภายในบริเวณการจัดเวทีปราศรัย ยังมีนายอานนท์ วาทยานนท์ ประชาสัมพันธ์กลุ่มเครือข่ายรักษ์อ่าวไทย และนายหมื่นศิลป์ พูลสวัสดิ์ ทีปรึกษานายกเทศมนตรีร่วมสังเกตการณ์ด้วย อย่างไรก็ตามการปราศรัยในลักษณะดังกล่าวจะมีต่อไปในวันที่ 26 และ 28 กรกฎาคมนี้ก่อนจะมีการปราศรัยใหญ่อีกครั้งในวันที่ 30 และ 31 กรกฎาคมนี้ที่ท่าเที่ยบเรือหน้าทอน
ขอบคุณ...ผู้จัดการ ออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น