น.อ. นิพนธ์ กล่าวว่า ทัพเรือภาคที่ 3 ในนาม ศูนย์ประสานงานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ได้จัดตั้งขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานงานต่าง ๆ เกี่ยวกับกิจการทางทะเลในทุก ๆ ด้าน รวมถึงเพื่อให้การปฏิบัติ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่เกิดความซ้ำซ้อนในการปฏิบัติงาน และมีการแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูลกันอย่างต่อเนื่อง และมีกองทัพเรือเป็นศูนย์กลาง ได้กำหนดจัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการของศูนย์ประสานงานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือแนวทางการปฏิบัติ และประสานความร่วมมือในการจัดระเบียบเรือในพื้นที่ทะเลอันดามัน และนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะทำให้การดำเนินกจกรรมในพื้นที่ฝั่งอันดามันมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัย และมีความมั่นคงอย่างถาวร รวมทั้งสามารถรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้มีความยั่งยืนต่อไปในอนาคต
ด้าน พล.ร.ท. ชุมนุม กล่าวว่า ในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน นับว่ามีผลประโยชน์ของชาติทางทะเลที่มีมูลค่ามากมาย ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกคนที่จะต้องช่วยกันรักษาและดำรงไว้ให้เกิดความยั่งยืนต่อไป แต่เนื่องจากในปัจจุบันวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็ว ประกอบกับ การแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่มีขีดจำกัดและไร้การควบคุมจึงทำให้การดำเนินกิจกรรมในทะเล มีแนวโน้มที่สร้างปัญหาต่อความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ เช่นปัญหายาเสพติด ปัญหาการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การทำประมงผิดกฎหมาย การแย่งชิงและทำลายทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล การก่อการร้าย การลักลอบจำหน่ายสินค้าหนีภาษีและโจรสลัด
สำหรับผลการปฏิบัติงาน ของ ศรชล เขต 3 รอบ 9 เดือน ระหว่างเดือนตุลาคม 2552 – มิถุนายน 2553 ด้านการรักษากฎหมายในทะเล ได้ทำการจับกุมการลักลอบและหลีกเลี่ยงการขนสินค้าเลี่ยงภาษีศุลกากร จำนวน 1 ครั้ง การจับกุมการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 18 ครั้ง ผู้ต้องหา 52 คน การจับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายประมงจำนวน 1 ครั้ง การจับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายป่าไม้ต่าง ๆ จำนวน 1 ครั้ง การร่วมจับกุมการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ จำนวน 6 ครั้ง ด้านการช่วยเหลือ เรือและผู้ประสบภัยทางทะเล รวมจำนวน 11 ครั้ง
***โสภณ เคี่ยมการ/ ข่าว ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ /ภาพ เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต/ พิมพ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น