วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อธิบดีกรมศุลกากร ตรวจราชการด่านศุลกากรระนอง


อธิบดีกรมศุลกากร เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ด่านชายแดนเข้มงวดกับสินค้านำเข้า-ส่งออกประเภทได้รับสิทธิพิเศษทางศุลกากร ส่วนการปิดด่านของพม่าด้าน อ.แม่สอด ไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนด้านระนอง

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 5 ส.ค.53 นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร และคณะ ได้ตรวจราชการที่ด่านศุลกากรระนอง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง มีนายหาญศักดิ์ วัลศิริ นายด่านศุลกากรระนองและเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ และบรรยายสรุป

นายด่านศุลกากรระนอง กล่าวว่า การปิดด่านชายแดนของพม่าที่ติดกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อการค้าชายแดนด้าน จ.ระนอง –จ.เกาะสอง มูลค่าไม่ได้เพิ่มหรือลดลงมากนัก ซึ่งการนำเข้า-ส่งออก ช่วง 3 ไตรมาสของปีงบประมาณ 2553 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 – มิถุนายน 2553 มีมูลค่ารวมประมาณ 11,300 ล้านบาท สินค้าที่นำเข้า 5 อันดับแรก ได้แก่ สัตว์น้ำ คิดเป็นร้อยละ 72.5 รองลงมา ของทำด้วยเหล็ก, ถ่านไม้, ท่อเหล็ก, ปลาป่น สินค้าที่ส่งออก 5 อันดับแรก คือ น้ำมันเชื้อเพลิง,น้ำมันหล่อลื่น คิดเป็นร้อยละ 50 รองลงมา เครื่องดื่มต่าง ๆ, เครื่องดื่มให้พลังงาน, ครีมเทียม/โอวัลติน และเบียร์ สำหรับการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดศุลกากรช่วง 3 ไตรมาสของปีงบประมาณ 2553 จำนวน 70 คดี มูลค่า 2,343,980 บาท การจัดเก็บรายได้จากอากรและค่าธรรมเนียม จำนวน 22 ล้านบาท จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มแทนหน่วยงานอื่น 32 ล้านบาทเศษ

อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติตรวจสอบบัญชีสินค้าที่นำเข้าและส่งออกให้เข้มงวดและละเอียดมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ได้รับสิทธิพิเศษทางศุลกากร

ข้อมูลจาก :: วิมล หนูแก้ว สวท. ระนอง

ไม่มีความคิดเห็น: