วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ภูเก็ตระดมสมองทำแผนศึกษาตั้งศูนย์สารสนเทศอู่เรือและซ่อมเรือยอชท์

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม จับมือมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ศึกษาโครงการจัดตั้ง “ศูนย์สารสนเทศสนับสนุนอุตสาหกรรมอู่เรือและซ่อมเรือสำราญ” ที่ภูเก็ต หวังให้เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลอู่เรือและมารีนา ที่สามารถสร้างรายได้สูงถึงปีละ 5,000 ล้านบาท

วันที่ 11 ต.ค.53 ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน เปิดการประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็น “โครงการศึกษาแนวทางการจัดตั้งศูนย์สารสนเทศเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือสำราญ” โดยมีผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือสำราญ หน่วยงานราชการและภาคเอกชนเข้าร่วม เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจการต่อเรือและซ่อมเรือสำราญ ในพื้นที่แถบทะเลอันดามันไปปรับปรุงให้การศึกษาสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กล่าวว่า สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทำการศึกษา “โครงการศึกษาแนวทางการจัดตั้งศูนย์สารสนเทศเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือสำราญ” เพื่อที่จะจัดตั้งศูนย์สารสนเทศเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือสำราญที่จังหวัดภูเก็ต ในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือสำราญทั้งหมดในภูเก็ตและอันดามัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แน่นขึ้น เพราะที่ผ่านมาข้อมูลต่างๆเกิดจากความรู้สึกมากกว่าตัวเลขจริงๆ หลังจากที่โครงการนี้ศึกษาแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2554 นี้ จะมีข้อมูลใหม่ที่ชัดเจนขึ้น

การที่ทางสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมได้ให้ มอ.ทำการศึกษาในโครงการนี้ เพราะเห็นว่าอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือสำราญในภูเก็ตและอันดามัน เป็นอุตสาหกรรมที่สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศจำนวนมาก จากที่มีเรือของนักท่องเที่ยวเข้ามาจอดซ่อมที่ภูเก็ต ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อเนื่องไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

ขณะนี้ที่ รศ.ดร.จรัญ บุญกาญจน์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กลาวว่า จากการที่ภูเก็ตมีโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถรองรับเรือสำราญได้เป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของท่าเทียบเรือที่ทันสมัยได้มาตรฐาน และมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะรองรับเรือสำราญขนาดตั้งแต่ 30-100 ฟุตขึ้นไป มีประมาณ 1,300 ลำ และแนวโน้มนักเดินเรือจะเข้ามาท่องเที่ยวในน่านน้ำภูเก็ตและอันดามันเพิ่มมากขึ้นประมาณปีละไม่ต่ำกว่า 5,000 ลำ จากจำนวนเรือยอชต์ประมาณ 500,000 ลำทั่วโลก

จากแนวโน้มจำนวนนักเดินเรือเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมเห็นว่าควรจะศึกษาจัดตั้งเป็นศูนย์สารสนเทศเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือสำราญสำหรับพื้นที่ฝั่งอันดามัน โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ประกอบการอู่เรือ ผู้ประกอบการมารีนา ธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเชื่อมโยงประสานงานระหว่างประกอบการมารีนากับผู้ประกอบการอู่เรือ และผู้รับบริการเรือสำราญ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาใช้บริการ นอกจากจะเป็นการสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวแล้ว ยังก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ประกอบการอู่เรือในการให้บริการซ่อมบำรุงเรือ ซึ่งมีมูลค่าไม่ต่ำกว่าปีละ 5,000 ล้านบาท และเกิดรายได้จากการจ้างงานและธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก

สำหรับโครงการศึกษาแนวทางการจัดตั้งศูนย์สารสนเทศฯ จะศึกษาครอบคลุมประเด็นดังต่อไปนี้ คือ 1.ศึกษาสถานภาพ ศักยภาพและข้อจำกัดที่มีผลต่อการประกอบการต่อเรือและซ่อมเรือสำราญขนาด 30-120 ฟุต รวมถึงอุตสาหกรรมและธุรกิจสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือสำราญในพื้นที่แถบทะเลอันดามัน

2.ศึกษาและวิเคราะห์รูปแบบการจัดตั้งศูนย์สารสนเทศฯ เพื่อจะเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญด้านธุรกิจเรือสำราญและเป็นตัวกลางในการประสานงานด้านต่างๆ ระหว่างผู้ประกอบการมารีนา ผู้ประกอบการอู่เรือ และผู้รับบริการเรือสำราญ

3.จัดทำฐานข้อมูลสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอู่เรือและซ่อมเรือสำราญ

4. สร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการอู่เรือ ผู้ประกอบการมารีน่าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและ

5.จัดทำข้อเสนอแนะแนวทางและมาตรการต่างๆ ในการสนับสนุนอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือสำราญ

ข้อมูล..ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: