ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต คุมตัว 4 ผู้ต้องหาชาวอินโดฯสอบสวนเครียด หลังก่อเหตุขโมยเงิน 2 ล้านในรถยนต์กระบะส่วนตัวของผู้เสียหาย ขณะจอดธุระบริเวณตลาดนัด ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจับกุมได้ขณะกำลังนั่งรถทัวร์โดยสารหลบหนีไป ทางด่านสะเดา จ.สงขลา ผบก.เผยทำงานเป็นขบวนการ
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 27 มิ.ย.55 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผกก.สส.กก.ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.ธรรมสงค์ บุญทรง สว.สส.กก.สส.ภ.จ.ภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวการจับกุมแก๊งคนร้ายชาวอินโดนีเซีย ที่ก่อเหตุร่วมกันลักทรัพย์เงินสดจำนวน 2 ล้านบาทจากรถกระบะของนางวาสนา พูลสวัสดิ์ ผู้เสียหาย ขณะจอดรถทำธุระที่บริเวณตลาดนัดสามกอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีผู้ต้องหา จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นาย MUHAMMAD AMIN สัญชาติอินโดนีเซีย นาย ALDI PRATAMA สัญชาติอินโดนีเซีย นาย YUSUF ANWAR ชาวอินโดนีเซีย และนาย TEDI USMAN BIN HUSIN สัญชาติอินโดนีเซีย พร้อมด้วยของกลางซึ่งประกอบด้วยเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท โทรศัพท์มือถือ ซิมโทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าที่คนร้ายใช้สวมในวันก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์จำนวน 1 คน ซึ่งเป็นรถที่คนร้ายเช่ามาก่อเหตุ
สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากนางวาสนา พูลสวัสดิ์ ผู้เสียหาย ว่าเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท ซึ่งวางอยู่ในรถกระบะหายไปหลังจากรถทำธุระที่บริเวณตลาดนัดสามกอง หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นทางผู้บังคับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้สั่งการให้เจ้าหน้าติดตามจับ กุมคนร้ายมาดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต จึงได้วางแผนจับกุมโดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางตั้งแต่ผู้เสียหายเข้า ไปเบิกเงินจากธนาคารแห่งหนึ่งบริเวณถนนรัษฎา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จนไปถึงที่เกิดเหตุ
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ารถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุและขับ ตามรถผู้เสียหายเป็นรถจักรยานยนต์ที่เช้ามาจากผู้ให้บริการรถเช่าหน้าโรงแรม รอยัลภูเก็ตซิตี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปตรวจสอบพบว่าคนที่เช่ารถคันดังกล่าวได้นำรถมาคืน แล้วทราบชื่อคนเช่าคือนาย ALDI PRATAMA สัญชาติอินโดนีเซีย จึงได้ประสานไปยังตำรวจ ตม.ภูเก็ต ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านาย ALDI PRATAMA สัญชาติอินโดนีเซีย เดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ประสานไปยังตำรวจทางหลวงในพื้นที่ภาค 8 และภาค 9 ให้ช่วยสกัดจับกุมคนร้าย ซึ่งคาดว่าหลบหนีออกจากจังหวัดภูเก็ตไปแล้ว
จนกระทั่งเมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 26 มิ.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้รับการประสานจากพ.ต.ท.บรรพต เดชมา สารวัตรทางหลวงหาดใหญ่ ว่าสามารถควบคุมตัวนาย นาย ALDI PRATAMA พร้อมพวกรวม 4 คน ขณะนั่งรถโดยสารประจำทางสายภูเก็ต-หาดใหญ่ มุ่งหน้าเข้า อ.หาดใหญ่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมาสอบสวนขยายผล ในเบื้องต้นรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง จึงแจ้งข้อกลางหา “ร่วมกันลักทรัพย์ (เงินสด)โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร
พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ กล่าวว่า การเข้ามาก่อเหตุของคนร้ายชาวอินโดนีเซียในครั้งนี้เป็นการทำงานเป็นขบวนการ มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี เพราะมีการส่งคนไปเฝ้าติดตามเพื่อหาเหยื่อที่ธนาคารเมื่อพบว่ามีคนเบิกเงิน มาจำนวนมากก็จะโทรศัพท์แจ้งให้เพื่อนร่วมแก๊งตามประกบรอเหยื่อเผลอจึงเข้าไป ก่อเหตุ ซึ่งครั้งนี้พบว่าผู้เสียหายจอดรถและลงจากรถโดยไม่ดับเครื่องยนต์และไม่ล็อก ประตูรถทำให้หยิบเงินสดไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งพฤติกรรมคล้ายกับกรณีที่คนร้ายชาวต่างชาติก่อเหตุฉกเพชรก่อนหน้านี้ โดยคนร้ายเข้ามาทางด่านสะเดาเช่นเดียวกัน หลังก่อเหตุคนเหล่านี้ก็จะเดินทางกลับทันที่ ถ้าเจ้าหน้าที่ทำงานช้าคนร้ายก็จะหลบหนีไปได้
เพราะฉะนั้นตนจึงอยากฝากเตือนไปยังประชาชนในพื้นที่ถ้าจะไปเบิกเงิน หรือนำทรัพย์สินจำนวนมากออกจากบ้านก็จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะขณะนี้มีคนร้ายชาวต่างชาติเข้ามาแฝงตัวเพื่อรอก่อเหตุจำนวนมาก เพราะฉะนั้นอย่าประมาทหรือเผลอให้คนเหล่านี้ลงมือได้
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 27 มิ.ย.55 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผกก.สส.กก.ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.ธรรมสงค์ บุญทรง สว.สส.กก.สส.ภ.จ.ภูเก็ต ร่วมแถลงข่าวการจับกุมแก๊งคนร้ายชาวอินโดนีเซีย ที่ก่อเหตุร่วมกันลักทรัพย์เงินสดจำนวน 2 ล้านบาทจากรถกระบะของนางวาสนา พูลสวัสดิ์ ผู้เสียหาย ขณะจอดรถทำธุระที่บริเวณตลาดนัดสามกอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยมีผู้ต้องหา จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นาย MUHAMMAD AMIN สัญชาติอินโดนีเซีย นาย ALDI PRATAMA สัญชาติอินโดนีเซีย นาย YUSUF ANWAR ชาวอินโดนีเซีย และนาย TEDI USMAN BIN HUSIN สัญชาติอินโดนีเซีย พร้อมด้วยของกลางซึ่งประกอบด้วยเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท โทรศัพท์มือถือ ซิมโทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าที่คนร้ายใช้สวมในวันก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์จำนวน 1 คน ซึ่งเป็นรถที่คนร้ายเช่ามาก่อเหตุ
สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากนางวาสนา พูลสวัสดิ์ ผู้เสียหาย ว่าเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท ซึ่งวางอยู่ในรถกระบะหายไปหลังจากรถทำธุระที่บริเวณตลาดนัดสามกอง หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นทางผู้บังคับตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตได้สั่งการให้เจ้าหน้าติดตามจับ กุมคนร้ายมาดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต จึงได้วางแผนจับกุมโดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางตั้งแต่ผู้เสียหายเข้า ไปเบิกเงินจากธนาคารแห่งหนึ่งบริเวณถนนรัษฎา ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จนไปถึงที่เกิดเหตุ
ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ารถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุและขับ ตามรถผู้เสียหายเป็นรถจักรยานยนต์ที่เช้ามาจากผู้ให้บริการรถเช่าหน้าโรงแรม รอยัลภูเก็ตซิตี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไปตรวจสอบพบว่าคนที่เช่ารถคันดังกล่าวได้นำรถมาคืน แล้วทราบชื่อคนเช่าคือนาย ALDI PRATAMA สัญชาติอินโดนีเซีย จึงได้ประสานไปยังตำรวจ ตม.ภูเก็ต ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านาย ALDI PRATAMA สัญชาติอินโดนีเซีย เดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ประสานไปยังตำรวจทางหลวงในพื้นที่ภาค 8 และภาค 9 ให้ช่วยสกัดจับกุมคนร้าย ซึ่งคาดว่าหลบหนีออกจากจังหวัดภูเก็ตไปแล้ว
จนกระทั่งเมื่อเวลา 19.30 น.วันที่ 26 มิ.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้รับการประสานจากพ.ต.ท.บรรพต เดชมา สารวัตรทางหลวงหาดใหญ่ ว่าสามารถควบคุมตัวนาย นาย ALDI PRATAMA พร้อมพวกรวม 4 คน ขณะนั่งรถโดยสารประจำทางสายภูเก็ต-หาดใหญ่ มุ่งหน้าเข้า อ.หาดใหญ่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนมาสอบสวนขยายผล ในเบื้องต้นรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง จึงแจ้งข้อกลางหา “ร่วมกันลักทรัพย์ (เงินสด)โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร
พล.ต.ต.ชนสิษฎ์ กล่าวว่า การเข้ามาก่อเหตุของคนร้ายชาวอินโดนีเซียในครั้งนี้เป็นการทำงานเป็นขบวนการ มีการวางแผนมาเป็นอย่างดี เพราะมีการส่งคนไปเฝ้าติดตามเพื่อหาเหยื่อที่ธนาคารเมื่อพบว่ามีคนเบิกเงิน มาจำนวนมากก็จะโทรศัพท์แจ้งให้เพื่อนร่วมแก๊งตามประกบรอเหยื่อเผลอจึงเข้าไป ก่อเหตุ ซึ่งครั้งนี้พบว่าผู้เสียหายจอดรถและลงจากรถโดยไม่ดับเครื่องยนต์และไม่ล็อก ประตูรถทำให้หยิบเงินสดไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งพฤติกรรมคล้ายกับกรณีที่คนร้ายชาวต่างชาติก่อเหตุฉกเพชรก่อนหน้านี้ โดยคนร้ายเข้ามาทางด่านสะเดาเช่นเดียวกัน หลังก่อเหตุคนเหล่านี้ก็จะเดินทางกลับทันที่ ถ้าเจ้าหน้าที่ทำงานช้าคนร้ายก็จะหลบหนีไปได้
เพราะฉะนั้นตนจึงอยากฝากเตือนไปยังประชาชนในพื้นที่ถ้าจะไปเบิกเงิน หรือนำทรัพย์สินจำนวนมากออกจากบ้านก็จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะขณะนี้มีคนร้ายชาวต่างชาติเข้ามาแฝงตัวเพื่อรอก่อเหตุจำนวนมาก เพราะฉะนั้นอย่าประมาทหรือเผลอให้คนเหล่านี้ลงมือได้
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น