การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เดินหน้าโครงการอุโมงค์ป่าตอง ตั้งงบ 30 ล้านบาท ศึกษารายละเอียดต่อยอดจากที่เทศบาลเมืองป่าตองศึกษาไว้แล้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการให้เกิดประโยชน์สูงสุด เผยทั้งโครงการใช้งบลงทุนกว่า 6,000 ล้านบาท มีเอกชนทั้งไทย และต่างชาติสนใจลงทุนหลายราย คาดเสร็จภายในปี 2560
วันที่ 8 มิ.ย.55 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประชุมหารือร่วมกับนายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เรื่องการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อม และออกแบบรายละเอียดโครงการพิเศษกะทู้-ป่าตอง โดยมีนายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน ในพื้นที่ภูเก็ตเข้าร่วม เพื่อรับทราบข้อมูลความต้องการของคนภูเก็ตต่อโครงการอุโมงค์ป่าตอง
ทั้งนี้ เนื่องจากในการประชุม ครม. อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2555 ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 มี.ค.55 ครม. ได้เห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สำหรับแผนงาน/โครงการที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันในส่วนที่เหลือ โดยมอบหมายให้การทางพิเศษ หน่วยงานรับผิดชอบรับไปพิจารณาศึกษา ความเหมาะสม และจัดทำรายละเอียดแผนงาน/โครงการ รวมทั้งดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบกฏหมายที่เกี่ยวข้องแล้วแต่กรณี และนำเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ภายหลังได้รับมอบหมายจาก ครม.การทางพิเศษฯ ได้จัดสรรงบประมาณ 30 ล้านบาท ในการศึกษารายละเอียดของโครงการ ซึ่งเป็นการศึกษาต่อยอดจากที่ทางเทศบาลเมืองป่าตองได้ศึกษาไว้แล้ว
นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กทพ. จะได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้างโครงการ เพื่อให้เป็นทางพิเศษ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ดังนี้ บริเวณจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุดโครงการจากเดิมที่เป็นทางแยกสัญญาณไฟจราจรให้เป็นทางแยกต่าง ระดับ ส่วนที่เป็นถนนระดับดิน เปลี่ยนเป็นทางยกระดับตลอดสาย ทาง กทพ. จะศึกษาระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง โดยจะมีการก่อสร้างอาคารด่านเก็บค่าผ่านทาง ศูนย์ควบคุมทางพิเศษ รวมทั้งมีระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกบนทางพิเศษ เช่น โทรศัพท์ฉุกเฉิน กล้อง CCTV เป็นต้น และจากการรับฟังความคิดเห็นของคนภูเก็ตในวันนี้ ต้องการที่จะให้มีทางพิเศษสำหรับรถจักรยานยนต์ด้วย เนื่องจากภูเก็ตมีรถจักรยานยนต์จำนวนมาก
“ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการศึกษาในรายละเอียด ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณปีเศษ หลังจากนั้นในปี 2557 จะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี อุโมงค์ดังกล่าวจะแล้วเสร็จเปิดใช้ได้ภายในปี 2560 แต่ทางกระทรวงคมนาคมต้องการที่จะให้เสร็จก่อนหน้านี้”
นายอัยยรัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับงบประมาณในการก่อสร้างคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท รวมทั้งตัวอุโมงค์ และทางยกระดับ ซึ่งจะเป็นการลงทุนโดยการทางพิเศษเอง หรือเป็นการร่วมลงทุนกับภาคเอกชน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษา รวมทั้งค่าเวนคืนที่ดินของเอกชนจำนวน 88 ราย ประมาณ 1,000 ล้านบาท หลังจากที่การทางพิเศษได้เปิดตัวโครงการนี้ ปรากฏว่า มีเอกชนทั้งไทย และต่างชาติสนใจเป็นจำนวนมาก
“ยืนยันว่าโครงการนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน และเป็นโครงการที่คุ้มค่ากับการลงทุน ที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดกับคนภูเก็ต การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของภูเก็ต
ด้านนายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า การศึกษารายละเอียดโครงการที่ทางเทศบาลได้มอบหมายให้บริษัทที่ปรึกษาศึกษา นั้นเสร็จทั้งหมดแล้ว เหลือแต่การศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาของ สผ.ได้ภายในเดือนนี้
ขณะที่ นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภาคเอกชนสนับสนุนโครงการนี้ เพราะปัจจุบัน ป่าตองมีนักท่องเที่ยวเข้าพักในโรงแรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของภาคเอกชนนั้นก็พร้อมที่จะจ่ายค่าผ่านทางพิเศษอยู่แล้ว แต่อยากจะฝากในเรื่องของประชาชนชาวป่าตอง และพนักงานให้การทางพิเศษพิจารณาค่าใช้บริการเป็นกรณีพิเศษด้วย
สำหรับโครงการอุโมงค์ป่าตองนั้น มีจุดเริ่มต้นโครงการอยู่ในพื้นที่ อ.กะทู้ บริเวณทางแยกจากทางหลวงหมายเลข 4029 ที่ กม. 0+850 เป็นทางยกระดับ ขนาด 4-6 ช่องจราจร (ระยะทาง 577 เมตร) จากนั้น แนวสายทางมุ่งหน้าไปยังหาดป่าตอง ตัดผ่านเขากมลา โดยก่อสร้างเป็นอุโมงค์คู่ ทิศทางมุ่งหน้า อ.กะทู้ มีความยาว 1,581 เมตร ทิศทางมุ่งหน้าหาดป่าตอง มีความยาว 1,613 เมตร เมื่อออกจากอุโมงค์จะเป็นทางยกระดับ ขนาด 4-6 ช่องจราจร (ระยะทาง 888 เมตร) เชื่อมต่อเข้ากับถนนผังเมืองรวมสาย ก ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของโครงการ รวมระยะทางทั้งสิ้น 3.08 กิโลเมตร จุดเริ่มต้น และสิ้นสุดโครงการ ก่อสร้างเป็นทางแยกต่างระดับ เพื่อลดปัญหาจราจร และอานวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เส้นทาง
วันที่ 8 มิ.ย.55 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต น.ส.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ประชุมหารือร่วมกับนายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เรื่องการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อม และออกแบบรายละเอียดโครงการพิเศษกะทู้-ป่าตอง โดยมีนายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน ในพื้นที่ภูเก็ตเข้าร่วม เพื่อรับทราบข้อมูลความต้องการของคนภูเก็ตต่อโครงการอุโมงค์ป่าตอง
ทั้งนี้ เนื่องจากในการประชุม ครม. อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2555 ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 มี.ค.55 ครม. ได้เห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ สำหรับแผนงาน/โครงการที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันในส่วนที่เหลือ โดยมอบหมายให้การทางพิเศษ หน่วยงานรับผิดชอบรับไปพิจารณาศึกษา ความเหมาะสม และจัดทำรายละเอียดแผนงาน/โครงการ รวมทั้งดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบกฏหมายที่เกี่ยวข้องแล้วแต่กรณี และนำเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป
ภายหลังได้รับมอบหมายจาก ครม.การทางพิเศษฯ ได้จัดสรรงบประมาณ 30 ล้านบาท ในการศึกษารายละเอียดของโครงการ ซึ่งเป็นการศึกษาต่อยอดจากที่ทางเทศบาลเมืองป่าตองได้ศึกษาไว้แล้ว
นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กทพ. จะได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการก่อสร้างโครงการ เพื่อให้เป็นทางพิเศษ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ดังนี้ บริเวณจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุดโครงการจากเดิมที่เป็นทางแยกสัญญาณไฟจราจรให้เป็นทางแยกต่าง ระดับ ส่วนที่เป็นถนนระดับดิน เปลี่ยนเป็นทางยกระดับตลอดสาย ทาง กทพ. จะศึกษาระบบจัดเก็บค่าผ่านทาง โดยจะมีการก่อสร้างอาคารด่านเก็บค่าผ่านทาง ศูนย์ควบคุมทางพิเศษ รวมทั้งมีระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกบนทางพิเศษ เช่น โทรศัพท์ฉุกเฉิน กล้อง CCTV เป็นต้น และจากการรับฟังความคิดเห็นของคนภูเก็ตในวันนี้ ต้องการที่จะให้มีทางพิเศษสำหรับรถจักรยานยนต์ด้วย เนื่องจากภูเก็ตมีรถจักรยานยนต์จำนวนมาก
“ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนการศึกษาในรายละเอียด ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาประมาณปีเศษ หลังจากนั้นในปี 2557 จะสามารถเริ่มก่อสร้างได้ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี อุโมงค์ดังกล่าวจะแล้วเสร็จเปิดใช้ได้ภายในปี 2560 แต่ทางกระทรวงคมนาคมต้องการที่จะให้เสร็จก่อนหน้านี้”
นายอัยยรัฐ กล่าวอีกว่า สำหรับงบประมาณในการก่อสร้างคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท รวมทั้งตัวอุโมงค์ และทางยกระดับ ซึ่งจะเป็นการลงทุนโดยการทางพิเศษเอง หรือเป็นการร่วมลงทุนกับภาคเอกชน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผลการศึกษาของบริษัทที่ปรึกษา รวมทั้งค่าเวนคืนที่ดินของเอกชนจำนวน 88 ราย ประมาณ 1,000 ล้านบาท หลังจากที่การทางพิเศษได้เปิดตัวโครงการนี้ ปรากฏว่า มีเอกชนทั้งไทย และต่างชาติสนใจเป็นจำนวนมาก
“ยืนยันว่าโครงการนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน และเป็นโครงการที่คุ้มค่ากับการลงทุน ที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดกับคนภูเก็ต การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของภูเก็ต
ด้านนายเปี่ยน กี่สิ้น นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง กล่าวว่า การศึกษารายละเอียดโครงการที่ทางเทศบาลได้มอบหมายให้บริษัทที่ปรึกษาศึกษา นั้นเสร็จทั้งหมดแล้ว เหลือแต่การศึกษารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาของ สผ.ได้ภายในเดือนนี้
ขณะที่ นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภาคเอกชนสนับสนุนโครงการนี้ เพราะปัจจุบัน ป่าตองมีนักท่องเที่ยวเข้าพักในโรงแรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของภาคเอกชนนั้นก็พร้อมที่จะจ่ายค่าผ่านทางพิเศษอยู่แล้ว แต่อยากจะฝากในเรื่องของประชาชนชาวป่าตอง และพนักงานให้การทางพิเศษพิจารณาค่าใช้บริการเป็นกรณีพิเศษด้วย
สำหรับโครงการอุโมงค์ป่าตองนั้น มีจุดเริ่มต้นโครงการอยู่ในพื้นที่ อ.กะทู้ บริเวณทางแยกจากทางหลวงหมายเลข 4029 ที่ กม. 0+850 เป็นทางยกระดับ ขนาด 4-6 ช่องจราจร (ระยะทาง 577 เมตร) จากนั้น แนวสายทางมุ่งหน้าไปยังหาดป่าตอง ตัดผ่านเขากมลา โดยก่อสร้างเป็นอุโมงค์คู่ ทิศทางมุ่งหน้า อ.กะทู้ มีความยาว 1,581 เมตร ทิศทางมุ่งหน้าหาดป่าตอง มีความยาว 1,613 เมตร เมื่อออกจากอุโมงค์จะเป็นทางยกระดับ ขนาด 4-6 ช่องจราจร (ระยะทาง 888 เมตร) เชื่อมต่อเข้ากับถนนผังเมืองรวมสาย ก ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของโครงการ รวมระยะทางทั้งสิ้น 3.08 กิโลเมตร จุดเริ่มต้น และสิ้นสุดโครงการ ก่อสร้างเป็นทางแยกต่างระดับ เพื่อลดปัญหาจราจร และอานวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เส้นทาง
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น