วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

รองผู้ว่าฯ ภูเก็ตลงพื้นที่เกาะราชา สางปัญหาสิ่งแวดล้อม-ดำน้ำทำลายปะการัง


รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เกาะราชา จ.ภูเก็ต หารือแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมทั้งขยะ สร้างบ่อบำบัดน้ำเสีย พร้อมตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างล่วงล้ำลำน้ำ และปัญหาดำน้ำทำลายปะการัง
      
       วันที่ 7 ก.พ.56 ดร.สมหมาย ปรีชาศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะทำงานบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝั่งเกาะราชา ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังลงตรวจสอบสภาพพื้นที่บนเกาะที่มีปัญหาน้ำเสีย ปัญหาขยะ ปัญหาการบุกรุกปลูกสิ่งปลูกสร้างในลำรางสาธารณะ ปัญหารุกพื้นที่บริเวณชายหาด ปัญหาทุ่นจอดเรือ และปัญหากิจกรรมทางน้ำ โดยมีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอันดามัน ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5ตำรวจน้ำ เทศบาลตำบลราไวย์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีนายสฤษดิ์ จันทร์ดี ประธานชมรมอนุรักษ์และป้องกันตนเองเกาะราชาใหญ่ สมาชิกชมรมฯ และผู้ประกอบการบนเกาะราชาใหญ่ เข้าร่วม ณ ศาลาอเนกประสงค์เกาะราชาใหญ่
      
       ทั้งนี้ ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสียของโรงแรมเดอะราชา ซึ่งมีปัญหาเมื่อมีฝนตกลงมาจำนวนมากจะทำให้น้ำเสียล้นออกจากบ่อ และไหลลงสู่ลำรางสาธารณะ จากนั้นก็ไหลลงทะเล ถัดมาได้ไปดูบริเวณบ่อกักไขมันของโรงแรมบ้านรายา ซึ่งมีปัญหากรณีของน้ำที่ไหลออกมาไม่ผ่านการบำบัด และไหลลงลำรางสาธารณะ ดูบริเวณหน้าอ่าวสยาม ซึ่งมีการร้องเรียนว่า ผู้ประกอบการโรงแรมรายาบุรีได้สร้างสิ่งปลูกสร้างล้ำลงไปบริเวณชายหาด และได้มีการนำทรายจากชายหาดมาถมในพื้นที่ รวมทั้งมีการปลูกสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำรางสาธารณะซึ่งเป็นทางน้ำธรรมชาติ ก่อให้เกิดการตื้นเขิน และน้ำไม่สามารถระบายได้สะดวก
      
       ดร.สมหมาย กล่าวว่า กรณีปัญหาของน้ำเสีย พบว่ามีบางสถานประกอบการยังไม่มีระบบบำบัด มอบหมายให้ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเข้าไปดูแล ส่วนกรณีสถานประกอบที่มีระบบบำบัดอยู่แล้วก็ขอให้มีการบำบัดน้ำเสียก่อนที่จะปล่อยลงลำรางสาธารณะ หรือเส้นทางน้ำธรรมชาติ นอกจากนี้ทราบว่า ในส่วนของโรงแรมเดอะราชา และโรงแรมบ้านรายามีโครงการที่จะปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย และระบบดักไขมันให้ดีขึ้นภายในระยะเวลาอันใกล้
      
       ส่วนปัญหาขยะนั้น สถานประกอบการแต่ละแห่งแจ้งว่า จะมีการจัดการด้วยตัวเอง ซึ่งที่ประชุมได้มีการนำเสนอว่า ควรให้เทศบาลตำบลราไวย์ในฐานะผู้ดูแล และจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการควรที่จะเข้าไปดูแลในภาพรวม เพื่อเป็นการบริการประชาชน เพราะหากปล่อยให้มีการจัดเอง และบางส่วนมีการฝังกลบบนเกาะก็จะไปสร้างปัญหาในเรื่องน้ำใต้ดิน รวมไปถึงการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียรวมบนเกาะด้วย ซึ่งให้ประสานกับทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการดำเนินการเพื่อศึกษาความเป็นไปได้
      
       ส่วนกรณีของสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ในส่วนของการรุกพื้นที่ชายหาดนั้น ทางสำนักงานเจ้าท่าฯ รับไปตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนกรณีที่มีการปลูกสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำรางสาธารณะ และการสร้างสิ่งกีดขวางในลำรางได้แจ้งให้ผู้ประกอบการทำการรื้อถอนออกไป และจะมีการลงพื้นที่อีกครั้ง
      
       สำหรับประเด็นปัญหาเกี่ยวกับกิจกรรมทางน้ำบริเวณเกาะราชา ซึ่งพบว่ามีผู้ประกอบการรายใหม่บางรายเปิดให้บริการกิจกรรมที่ไม่มีมาตรฐานด้านความปลอดภัย และกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเกาะราชา คือ กิจกรรมทดลองดำน้ำ หรือ Try Scuba ซึ่งทำให้ปะการังเสียหาย ก็ให้ไปดำเนินการออกประกาศจังหวัด เรื่องการกำหนดประเภทกิจกรรมทางน้ำบริเวณเกาะราชา โดยให้เป็นไปตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนการวางทุ่นจอดเรือนั้น ก็จะมีการดำเนินการบริเวณหน้าอ่าวสยามเป็นจุดแรก โดยมอบหมายให้ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 5 ไปประสานกับผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินการ
ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

ไม่มีความคิดเห็น: