วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

หมู่เรือเมียนมาร์เยือนไทยในรอบ 7 ปี สานสัมพันธ์ 2 ประเทศ


กองทัพเรือสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์เยือนทัพภาค 3 ภูเก็ต เผยเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เยือนเพื่อนบ้าน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือของทั้ง 2 ประเทศ เผยเตรียมยกระดับความสัมพันธ์ฝึกซ้อมรบร่วมกัน
          เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 20 ก.พ.56 ที่กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต น.อ. AUNG ZAW HLAING ผู้บังคับการหมู่เรือของกองทัพเรือสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ จำนวน 2 ลำ ซึ่งประกอบด้วยเรือ UMS 561 และเรือ UMS 562 เดินทางเข้าเยี่ยมคำนับ และร่วมหารือความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศกับ พล.ร.ท. ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ภูเก็ต ภายหลังนำหมู่เรือพร้อมกำลังพลเข้าเทียบท่าที่ท่าเทียบเรือน้ำลึกภูเก็ต เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 20 ก.พ.56
          พล.ร.ท.ธราธร ขจิตสุวรรณ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวถึงการเดินทางมาเยี่ยมประเทศไทยของหมู่เรือกองทัพเรือสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ จำนวน 2 ลำ ว่า เป็นการเดินทางมาเยี่ยมประเทสไทยเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งเมื่อปี 2547 ที่ผ่านมา กองทัพเรือไทยเคยจัดหมู่เรือไปเยือนกองทัพเรือสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์มาแล้ว และครั้งนี้ ทางทัพเรือสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ได้จัดขบวนเรือมาเยือนเรา ซึ่งเป็นการเดินทางมาเยือนในรอบ 7 ปี
           “ซึ่งเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ และการมาเยือนในครั้งมีการร่วมกันหารือเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างกัน และเป็นการหารือในการเตรียมความพร้อมในการต้อนรับ AEC ปี 2558 อย่างไรก็ตาม นอกจากจะมีการพบปะในระดับปฏิบัติแล้ว ยังมีการพบปะระดับผู้นำด้วย ซึ่งจะทำให้การเดินหน้าแก้ปัญหาระหว่างชายแดนระหว่างกันมีความเป็นไปได้มากขึ้น นอกจากนั้น ยังรวมไปถึงการแก้ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจของไทยโดยเฉพาะการเปิดท่าเทียบเรือทวายซึ่งนอกจากจะเป็นการเชื่อมต่อการขนส่งโดยทางเรือแล้ว ยังเป็นการเชื่อมต่อทางบกด้วยผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวและว่า
          เร็วๆ นี้ทางทัพเรือภาคที่ 3 จะส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมประชุม RBC คณะกรรมชายแดนไทยพม่า กับทางพม่าที่เมืองย่างกุ้ง ซึ่งจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องการฝึกอบรม เรื่องของการสื่อสารระหว่างพรหมแดนเพื่อลดปัญหาความขัดแย้งความไม่เข้าใจระหว่างกัน รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการฝึกรบระหว่างกันเพื่อยกระดับความสัมพันธ์
          ขณะที่ น.อ. AUNG ZAW HLAING ผู้บังคับการหมู่เรือของกองทัพเรือสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ กว่าวว่า สำหรับการเดินทางออกนอกประเทศของกองทัพเรือสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ที่เรือรบของประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ออกนอกประเทศเยี่ยมคำนับประเทศอื่นๆ หลังจากการเปิดประเทศซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศแรก โดยมีกำหนดจอดเทียบท่าอยู่ในจังหวัดภูเก็ต จำนวน 3 วัน เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือทั้งสองประเทศ และเพื่อเชื่อมความสัมพันธไมตรีซึ่งกันและกัน
          น.อ. AUNG ZAW HLAING ผู้บัญชาการกองเรือ ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ กล่าวว่า การเลือกเดินทางออกนอกประเทศมาเยี่ยมกองทัพเรือของประเทศไทยเป็นประเทศแรกว่า สืบเนื่องจากทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์อันดีด้วยกันมาตลอด จึงเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกในการเจริญสัมพันธไมตรี อีกทั้งเนื่องจากเรามีน่านน้ำติดต่อกัน ซึ่งการมาในครั้งนี้ นอกจากจะมาเพื่อเชื่อมความสัมพันธไมตรีกันแล้ว ก็จะมีการพูดคุยหารือในการทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพเรือไทย และประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และในอนาคตจะมีการทำงานร่วมกัน เพื่อรักษาผลประโยชน์ทางทะเลร่วมกัน เช่น อาจจะมีการลาดตระเวน การฝึกร่วมกัน
โดย.. ASTV Manager ภาคใต้

ไม่มีความคิดเห็น: