วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

นอภ.กะทู้ นำกำลังเข้าจับกุมผู้บุกรุกป่าสงวนเทือกเขากมลา ยึดรถแบ็กโฮพร้อมเจ้าของ


นอภ.กะทู้ นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้ากุมรถแบ็กโฮ 1 คัน ขณะกำลังตักหน้าดินทำถนนขึ้นเขาในเขตป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา พร้อมควบคุมตัวเจ้าของรถอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กองปราบฯ ค้นตัวพบอาวุธปืน 1 กระบอก
      
       เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 28 มิ.ย.56 นายวีระ เกิดสิริมงคล นายอำเภอกะทู้ พร้อมด้วย นายศิริพงษ์ หลีประสิทธิ์ ปลัดอำเภอกะทู้ เจ้าหน้าอาสาสมัครรักษาดินแดนและเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ภก.2 (ภูเก็ต) เข้าตรวจสอบบริเวณเขาพันธุรัตน์ ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา ม.4 ต.กะทู้ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีการบุกรุกเขตป่า และตัดถนนเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว
      
       จากการตรวจสอบทางขึ้น พบรถแบ็กโฮ จำนวน 1 คัน ขณะลงมาเติมน้ำมัน และมีร่องรอยการตักดิน จึงควบคุมตัวคนขับ และสั่งเคลื่อนย้ายรถลงมาด้านล่าง แต่ขณะที่ควบคุมตัวอยู่คนขับอาศัยช่วงที่เจ้าหน้าที่กำลังแบ่งหน้าที่เพื่อตรวจสอบหลบหนีไปได้ เหลือเพียงนายจ้างซึ่งเป็นเจ้าของรถ ซึ่งอ้างว่าเป็นคนของกองปราบปรามฯ เจ้าหน้าที่ได้ค้นตัวพบอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก ไม่มีใบอนุญาตพกพาจึงยึดอาวุธปืน และควบคุมตัวไว้ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อร่วมตรวจสอบ โดยชายคนดังกล่าวได้อ้างว่า เป็นกองปราบอาสา และได้รับการว่าจ้างจากนายประดิษฐ์ ไม่ทราบนามสกุล ให้มาขุดตักหน้าดินในพื้นที่แห่งนี้
      
       จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบเส้นทางที่ตัดถนนเข้าไปในจุดแรกซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ พบว่ามีความลาดชันเกิน กม.กำหนด สองข้างทางมีการปลูกยางพาราอายุประมาณ 2 ปี เป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร มีการก่อสร้างรางน้ำคอนกรีตตามแนวถนน ด้านบนสุดยังพบถังบรรจุน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 4 ถัง วางเรียงรายอยู่บนเนินเขา เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ภก.2 (ภูเก็ต)ได้นำเครื่อง GPS มาชี้ตำแหน่งในเบื้องต้นพบว่าอยู่ในพื้นที่เขาพันธุรัตน์ ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา จึงสำรวจเก็บข้อมูล
      
       ขณะที่อีกจุดซึ่งอยู่บริเวณใกล้เคียง มีสภาพเป็นพื้นที่ป่า และมีการตัดถนนเข้าไปในลักษณะเดียวกันอีกกว่า 50 ไร่ เจ้าหน้าที่จะเข้าทำการตรวจสอบอีกครั้ง
      
       นายวีระ เกิดสิริมงคล นายอำเภอกะทู้ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีการบุกรุกจึงทำการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ป่าเขาพันธุรัตน์ถูกบุกรุกเป็นจำนวนมาก จาก 2 จุดนี้เองถ้ามองจากสายตาคาดว่าเป็น 100 ไร่ แต่ในวันนี้ต้องดำเนินการในจุดแรกก่อนเพราะมีการนำรถแบ็กโฮเข้ามาตักหน้าดิน ส่วนจุดอื่นบริเวณใกล้เคียงจะต้องเข้ามาตรวจสอบพร้อมกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้อีกครั้งหนึ่ง
      
       อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อเจ้าของรถแบ็กโฮ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ฐาน ก่อสร้าง แผ้วถาง บุกรุกยึดถือครอบครอง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า โดยมิได้รับอนุญาตพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และพกพาอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาต ก่อนจะมีการเรียกผู้ว่าจ้าง หรือผู้อ้างครอบครองเอกสารสิทธิมาชี้แจง
ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

ไม่มีความคิดเห็น: