วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ภูเก็ตขานรับ DSI สอบมาเฟียต่างชาติแย่งงานคนไทย



อุปนายกสมาคมท่องเที่ยวภูเก็ต ขานรับกรณี DSI เตรียมคลี่คลายปัญหาชาวต่างชาติเข้ามาประกอบอาชีพแย่งอาชีพคนไทยตามแหล่งท่องเที่ยว ด้าน รอง ผบก.ภูเก็ต ลั่นไม่ยอมให้มีแก๊งอิทธิพลชาวรัสเซียในจังหวัด เกรงกระทบภาพลักษณ์
      
       วันที่ 18 ก.ค.56 นายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงกรณีการลักลอบทำงานของบุคคลต่างด้าว เช่น ชาวรัสเซีย เกาหลีใต้ เนปาล บังกลาเทศ ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นในพื้นที่การท่องเที่ยวภูเก็ตจริง และผู้ประกอบการเห็นด้วย ที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ จะเข้ามาคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่บุคคลต่างด้าวกระทำผิดกฎหมายไทยในลักษณะต่างๆ ซึ่งจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ในขณะที่กลุ่มนักธุรกิจชาวต่างประเทศชาติใดก็แล้วแต่ ที่เข้ามาประกอบอาชีพอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีพฤติกรรมดีก็สามารถประกอบการได้ต่อไป
      
       ทั้งนี้ ในเมืองท่องเที่ยว หรือเมืองธุรกิจใดๆ ในโลกนี้ ย่อมจะมีกลุ่มผู้แสวงหาผลประโยชน์ และในกรณีที่เป็นคนไทย และผูกโยงกับชาวต่างประเทศ หากกระทำผิดกฎหมายไทย ไม่สามารถที่จะเอาไว้ได้เช่นเดียวกัน เพราะมีผลกระทบในเรื่องของภาพลักษณ์ความสงบเรียบร้อยของเมืองท่องเที่ยวนานาชาติภูเก็ต มันหมายถึงชื่อเสียงของประเทศ และผู้ประกอบการชาวต่างประเทศที่ดี ตรงไปตรงมาอาจจะหวาดหวั่น และไม่มาลงทุนได้เหมือนกัน
      
       “ อยากจะให้ ดีเอสไอ หรือเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เข้ามาดำเนินการอย่างจริงจัง มีการบังคับใช้ตามกฎหมายทุกช่องทางที่มีอยู่อย่างเต็มที่ เพราะผู้ประกอบการท่องเที่ยวมองว่า เป็นสิ่งที่ดี ควรจะมีการคัดกรองกลุ่มนักธุรกิจที่ดี เหมาะสมให้คงอยู่ต่อไป ในพื้นที่ภูเก็ตการเคลียร์ปัญหาที่บุคคลทั่วไปมองว่า เป็นการตั้งตนเป็นผู้มีอิทธิพล จ่ายผลประโยชน์เบี้ยบ้ายรายทางให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่บางหน่วยงาน ควรให้ภาพลักษณ์นี้หมดไปจากเกาะภูเก็ตได้แล้วนายภูริต กล่าว
      
       ด้าน พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวถึง กรณีดังกล่าวที่ทาง ดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษ ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นใหม่ แต่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานพอสมควรแล้ว และก่อนหน้านี้ ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ให้ไปร่วมดำเนินการแก้ไขปัญหาการร้องเรียนของกลุ่ม หรือชมรมผู้ประกอบการขนส่ง ในท้องที่บ้านบางเทา ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง เนื่องจากว่ามีกลุ่มชาวรัสเซียแฝงตัวเข้ามาประกอบอาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยว บริษัทนำเที่ยว สถานบันเทิง ร้านค้าขายของที่ระลึก ร้านอาหาร หรือแม้แต่รถแท็กซี่รับจ้างอย่างครบวงจร ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า มีการแก้ไขปัญหาไปได้ในระดับหนึ่งแล้ว โดยมีการเจรจา กวดขัน และให้มีการประกอบอาชีพโดยถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อความสงบเรียบร้อยของท้องถิ่น
      
       รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีของชาวรัสเซียที่เป็นข่าวอยู่ว่า มีปัญหากับกลุ่มผู้ประกอบการชาวไทยในจังหวัดภูเก็ต ที่มีการประกอบอาชีพในลักษณะเดียวกันนั้น ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันชาวรัสเซียเป็นกลุ่มใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่เป็นอันดับ 2 รองจากชาวจีน ดังนั้น จึงเป็นไปได้ที่พฤติกรรมจะเป็นเหมือนชาวจีน หรือเกาหลีใต้ในอดีต ที่เข้ามาประกอบอาชีพในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องต่างๆ จะต้องเข้าไปดูว่า ชาวรัสเซีย ประกอบอาชีพต้องห้ามสำหรับบุคคลต่างด้าวหรือไม่อย่างไร หรือเป็นการแย่งอาชีพคนไทยด้วยที่เป็นไปตาม พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าวอยู่แล้ว และจากข้อมูลที่มีอยู่ ชาวรัสเซีย ได้ขออนุญาตทำงานถูกต้องกับกรมการจัดหางานก็มีอยู่ เช่น การตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว ส่วนมีการลักลอบประกอบอาชีพนอกเหนือจากที่ขออนุญาต ทางพนักงานเจ้าหน้าที่กวดขันเสมอมา และจากสถิติปี 2554-2556 ปรากฏว่า มีการจับกุมชาวรัสเซียอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นประกอบการขนส่ง รถยนต์รับจ้าง แท็กซี่ ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว และในธุรกิจเหล่านี้มีชาวไทยประกอบการด้วย และในเมื่อธุรกิจนี้ มีการแข่งขัน และชาวรัสเซีย จะพยายามทำธุรกรรมกับวงการเดียวกัน จึงมีปัญหาความขัดแย้งกับกลุ่มผู้ประกอบการที่บ้านบางเทาในช่วงที่ผ่านมา
      
       “การตั้งตนเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลของชาวรัสเซีย เราไม่ยอมให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตแน่นอน และข้อมูลที่มีอยู่ มีส่วนกระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ผู้ประกอบการไทย และความสงบเรียบร้อยบ้านเมืองรุนแรง ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ยังไม่มีการพบข้อมูลในลักษณะดังกล่าวขนาดนั้น ที่ผ่านมา มีคดีการทำร้ายร่างกาย เมาสุรา แต่ไม่ใช่เป็นมาเฟีย และทุกชาติที่เข้ามาในภูเก็ตก็มีในเรื่องนี้บ้างเหมือนกัน หากเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกลุ่มก้อนมากก็คือ ชาวจีน เกาหลีใต้ นอกจากนี้ ที่เคยจับกุมชาวรัสเซีย มา มีกรณีที่ขอใบอนุญาตทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว แต่กลับมาขาย แพกเกจทัวร์ และมีคนไทยร่วมทุนกันด้วยได้เลิกกิจการไปที่หาดบางเทารอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าว


ข้อมูลจาก.. ASTV Manager ภาคใต้

ไม่มีความคิดเห็น: